• April 23, 2024

แนะรัฐหนุนภาคโลจิสติกส์ใช้ยานยนต์ไฟฟ้า สู่เป้าลดปล่อยคาร์บอน

นายคณิสสร์ ศรีวชิระประภา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เน็กซ์ พอยท์ จำกัด (มหาชน) หรือ เน็กซ์(NEX)เปิดเผยว่า ตามที่คณะกรรมการนโยบายยานยนต์ไฟฟ้าแห่งชาติ (บอร์ดEV)เห็นชอบมาตรการสนับสนุนการใช้ยานยนต์ไฟฟ้า ระยะที่ 2 หรือEV3.5 ตั้งแต่ปี 2567-2570 โดยรัฐให้เงินอุดหนุนรถยนต์ไฟฟ้า รถกระบะไฟฟ้า และรถจักรยานยนต์(จยย.)ตามประเภทและขนาดของแบตเตอรี่ สูงสุด 1 แสนบาทต่อคัน เพื่อส่งเสริมอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าขยายตัวอย่างต่อเนื่อง และดึงนักลงทุนรายใหม่เข้ามาตั้งฐานการผลิตในประเทศ รวมทั้งสนับสนุนเป้าหมายของไทยในการลดก๊าซเรือนกระจก เพื่อก้าวสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอนในปี 2050 นั้น แนวคิดและมาตรการดังกล่าวถือเป็นเรื่องที่ดี แต่ส่วนตัวมองว่ายังไม่ตอบโจทย์ทั้งหมด เพราะรถที่เป็นสาเหตุหลักของการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ต้นกำเนิดฝุ่นละอองขนาดเล็กPM2.5 มากกว่ารถยนต์ส่วนบุคคลหลายเท่าตัว เป็นรถขนส่งเชิงพาณิชย์ โดยเฉพาะรถบรรทุกขนาดใหญ่ที่เป็นยานพาหนะหลักในภาคโลจิสติกส์ของประเทศคำพูดจาก สล็อตทรูวอเลท

หากต้องการจะบรรลุเป้าหมายการลดก๊าซเรือนกระจกและก้าวสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอนในปี 2050 สิ่งที่รัฐควรให้ความสนใจ คือกำหนดมาตรการสนับสนุนเพิ่มเติม เรื่องของรถไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ โดยเฉพาะในระบบโลจิสติกส์ ทั้งการขนส่งผู้โดยสาร ขนส่งสินค้าและวัตถุดิบต่างๆ จะสามารถลดการใช้น้ำมันดีเซลได้อย่างยั่งยืน ทั้งยังส่งผลให้การขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศเข้าใกล้เป้าหมายตามนโยบายของรัฐบาลได้ตรงประเด็นกว่าการสนับสนุนรถยนต์ไฟฟ้าส่วนบุคคลเท่านั้น ซึ่งปัจจุบันมียอดจดทะเบียนสะสมรถบรรทุก ตั้งแต่ 6 ล้อขึ้นไป รวมรถหัวลากในตลาดมีกว่า 1.3 ล้านคัน หากผู้ประกอบการกลุ่มนี้ทยอยเปลี่ยนจากรถสันดาปมาเป็นรถขนส่งพลังงานไฟฟ้า อาจจะปีละแค่ประมาณ 10,000 คัน จะทำให้ต้นทุนยิ่งถูกลง และช่วยลดภาวะโลกร้อนได้ และส่งเสริมให้ไทยเข้าสู่เป้าหมายการลดปล่อนก๊าซเรือนกระจกได้เร็วขึ้น อีกทั้งยังเพิ่มโอกาสการแข่งขันทางการค้าภายใต้มาตรการปรับคาร์บอนก่อนเข้าพรมแดนของสหภาพยุโรป (Carbon Border Adjustment Mechanism)หรือซีแบม(CBAM)อีกด้วย

ด้าน ผศ.ดร.มะโน ปราชญาพิพัฒน์ ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยและบริการวิชาการด้านโลจิสติกส์และซัพพลายเชน วิทยาลัยโลจิสติกส์ และซัพพลายเชนมหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา (มร.สส.) กล่าวว่า ขอเสนอให้ภาครัฐกำหนดนโยบายเพื่อส่งเสริมผู้ประกอบการด้านโลจิสติกส์ ในการปรับเปลี่ยนจากรถสันดาปมาเป็นรถพลังงานไฟฟ้า เช่น จัดเงินอุดหนุนเหมือนกับรถยนต์ไฟฟ้าส่วนบุคคล สิทธิด้านภาษี สิทธิการใช้ช่องทางพิเศษเข้าท่าเรือได้รวดเร็วกว่ารถน้ำมันที่ต้องจอดรอคิวกันหลายชั่วโมงกว่าจะได้ขนถ่ายสินค้า หรืออาจเข้าเมืองเร็วกว่ารถน้ำมัน 1 ชั่วโมง และการสนับสนุนด้านเบี้ยประกันภัย เพื่อเป็นการชวนเชิญให้ผู้ประกอบการขนส่งภาคเอกชนเปลี่ยนมาใช้รถขนส่งไฟฟ้าคำพูดจาก สล็อตเว็บตรง

ทั้งนี้ รัฐอาจกำหนดแนวทางสนับสนุนเงินอุดหนุนในการซื้อรถเชิงพาณิชย์ ในกรณีรถที่ผลิตและประกอบในประเทศ ในสัดส่วนชิ้นส่วนรถที่ใช้วัสดุส่วนใหญ่ที่ผลิตในประเทศมากกว่า 70%รัฐอุดหนุนเป็นเงิน 500,000 บาทต่อคัน หรือ 10% กรณีรถที่ผลิตและประกอบในประเทศ ในสัดส่วนชิ้นส่วนรถที่ใช้วัสดุส่วนใหญ่ที่ผลิตในประเทศมากกว่า 50%รัฐอุดหนุน 300,000 บาทต่อคัน เพื่อสนับสนุนให้เกิดการผลิตในประเทศ โดยเงินในการสนับสนุนอาจจะนำมาจากกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง

ผศ.ดร.มะโน กล่าวต่อว่า ขณะนี้ผู้ประกอบการโดยเฉพาะด้านส่งออกกำลังเผชิญกับมาตรการซีแบม ขณะที่สหรัฐอเมริกาอยู่ระหว่างร่างกฎหมายการเก็บภาษีคาร์บอน และเชื่อว่าอีกหลายประเทศกำลังดำเนินการในเรื่องนี้ ส่วนตัวมองว่า การที่รัฐช่วยสนับสนุนเปลี่ยนรถในระบบโลจิสติกส์และการขนส่งจากรถสันดาปมาเป็นรถพลังงานไฟฟ้า เท่ากับเป็นการช่วยผู้ประกอบการไทยเตรียมความพร้อมในการพัฒนากระบวนการผลิตและการบริการ รวมทั้งการขนส่งที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เพื่อรายงานปริมาณการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ที่เกิดจากกระบวนการผลิตสินค้าตามมาตรการซีแบม ทั้งนี้ หากผู้ประกอบการรายใดต้องการข้อมูลหรือคำปรึกษา สามารถสอบถามได้ที่เพจเฟซบุ๊กRich Cls Ssruสถาบันยินดีให้คำปรึกษา เพื่อช่วยให้ผู้ส่งออกไทย สามารถปรับตัวรองรับมาตรการซีแบม และขับเคลื่อนสู่เศรษฐกิจสีเขียวอย่างยั่งยืน